การใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า


ดวงตา จิตสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณ หมายถึงการรู้ว่าเราทั้งหมดคือดวงวิญญาณ เป็นลูกของดวงวิญญาณสูงสุด ดังนั้นเราจึงเป็นพี่น้องกัน ไม่ใช่หญิง หรือชาย ด้วยจิตที่มุ่งมั่นในการเป็นพี่น้องกัน สายตาที่มองกันก็ไม่ดึงรั้งด้วยตัณหาราคะอีกต่อไป รวมทั้งไม่มีอคติต่อสีผิว เชื้อชาติ อายุ อันเนื่องมาจากสำนึกที่เป็นร่าง ความสนใจอยู่ที่จิตใจ ไม่ใช่ร่างกาย เมื่อดวงวิญญาณซึมซับความบริสุทธิ์ของผู้เป็นพ่อสูงสุด ดวงตาก็จะส่งประกายของความบริสุทธิ์ออกมา กระแสคลื่นนั้นก็จะจูงใจผู้อื่นด้วยเช่นกัน

หู ไม่ว่าอะไรที่ผ่านหูเข้ามา จะต้องได้รับการกลั่นกรองด้วยสติปัญญามากขึ้น แม้ว่าหูจะได้ยินเสียงอยู่ตลอดเวลา และเป็นไปโดยอัตโนมัติก็ตาม แต่เราควรจะเลือกฟังแต่สิ่งที่ให้คุณประโยชน์ ไม่เช่นนั้นแล้ว เราก็จะกลายเป็นถังขยะที่มีชีวิต คอยรับฟังแต่คำพูดที่เป็นพิษรอบตัว แล้วปล่อยให้เข้ามาอยู่ใน สติปัญญาเหมือนขยะมูลฝอยที่หาประโยชน์อะไรไม่ได้

ปาก ถ้าเราควบคุมการฟังของหูได้ เราก็สามารถควบคุมคำพูดได้ง่ายขึ้น เราเคยใช้ปากในทางที่ให้โทษมานาน แต่บัดนี้ รสชาติของความสุขของเราเปลี่ยนมาเป็นความสุขเหนือประสาทสัมผัส เราจึงต้องใช้ปากอย่างระมัดระวัง ให้เป็นไปเพื่อการช่วยเหลือให้ประโยชน์อันสูงสุดเท่านั้น นั่นคือ การนำผู้อื่นเข้ามาใกล้พระเจ้า

การสัมผัส เมื่อมือของเราสัมผัสกับงาน คือการนำผู้อื่นให้เข้ามาใกล้ผู้ให้แต่คุณประโยชน์ ตัวเราเองก็จะมีการสร้างสมพลังแห่งสติปัญญาที่ใช้ในการพัฒนาตนเองและสามารถเข้ามาใกล้ชิดดวงวิญญาณสูงสุดได้มากยิ่งขึ้น

จมูก จมูกที่ใช้ดมกลิ่นเป็นสัญลักษณ์ของความอยากรู้อยากเห็น เมื่อได้รับการยกระดับความรู้และประสบการณ์ จะทำให้ดวงวิญญาณใช้จมูกสัมผัสกลิ่นของ "คุณประโยชน์" หรือ "การสูญเสีย" ได้เป็นอย่างดี เราก็สามารถเปลี่ยนจากความอยากรู้อยากเห็น ไปสู่หนทางการพัฒนาคุณสมบัติและอำนาจของความสุขที่มั่นคงถาวร ซึ่งนำเราไปสู่จุดหมายปลายทางที่สูงส่งที่สุด คือการหลุดพ้นในชีวิต (Liberation in Life) เป็นหนทางที่จะทำให้ผู้อื่นดำเนินตาม และประสบความสำเร็จเช่นกัน


จากส่วนหนึ่งของหนังสือ ราชาโยคะ
สงวนลิขสิทธิ์โดย Brahma Kumaris Raja Yoga Foundation(Thailand)