เด็กชายรุ่งกับดักแด้

รุ่ง เป็นเด็กชายไร้เดียงสา ชอบธรรมชาติ มีจิตใจดีงาม ชอบช่วยเหลือพี่น้อง เพื่อน และสัตว์

วันหนึ่งเด็กชายรุ่งได้ขอให้พ่อพาไปเที่ยวที่สวนดอกกุหลาบที่มีผีเสื้อบินไปมามากมาย

เด็กชายรุ่งชอบมาก จึงอยู่ในสวนดอกไม้นี้ได้ทั้งวัน

เด็กชายรุ่งได้มองเห็นรังไหมของผีเสื้อตัวอ่อน จึงเฝ้านั่งมองดู ผีเสื้อตัวอ่อนนั้นที่ใช้ความพยายาม เพื่อจะออกมาจากรูเล็ก ๆ ของรังไหมดิบเป็นเวลาหลายชั่วโมง ส่วนหนึ่งของร่างผีเสื้อตัวอ่อนได้ออกมาจากรูเล็ก ๆ ของรังไหม แล้วมันก็หยุดราวกับว่าหมดความพยายาม

เด็กชายรุ่งจึงตัดสินใจที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ผีเสื้อตัวอ่อนนั้น โดยการใช้กรรไกรตัดส่วนที่เหลือของรังไหมดิบที่ผีเสื้อยังติดอยู่เพื่อให้สามารถออกมาได้ ร่างของผีเสื้อที่เห็นจะบวมและตัวเล็ก ปีกของมันจะเหี่ยวและย่นพับเข้าหากัน เด็กชายรุ่งจึงได้เฝ้ามองดูตัวผีเสื้อนี้ต่อไปอีก เพราะคิดว่าในไม่ช้าปีกของผีเสื้อนี้จะใหญ่ขึ้นและขยายออกสามารถที่จะพยุงร่างบินได้ ผลตามความจริง มิได้เป็นเช่นที่คิด ผีเสื้อตัวนั้นได้คลานไปรอบ ๆ ด้วยร่างที่บวมและปีกที่เหี่ยวย่น มันไม่สามารถที่จะบินได้ เด็กชายรุ่ง จึงรีบวิ่งไปหาพ่อ เพื่อเรียกให้มาดู และหาวิธีช่วยเหลือผีเสื้อตัวนั้น

เมื่อพ่อได้มาเห็น และให้เด็กชายรุ่งเล่าสิ่งที่เกิดขึ้น
ในที่สุดพ่อ จึงได้พูดว่า : ลูกเป็นผู้ที่มีจิตใจ เมตตา กรุณา แต่จะต้องมีความเข้าใจด้วยว่า การที่ลูกได้ให้การช่วยเหลือโดยขาดความรู้ จะไม่มีประโยชน์อะไร แต่กลับกลายเป็นโทษ

เด็กชายรุ่งตอบว่า มันจะให้โทษอย่างไรครับ?

พ่อจึงตอบว่า ผีเสื้ออ่อน ที่อยู่ในรังไหมดิบ เรียกว่า ดักแด้ รังไหมนี้ จะเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันอันตรายต่อตัวผีเสื้ออ่อนที่ยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่

เด็กชายรุ่ง จึงพูดว่า ตัวผีเสื้อได้พยายามออกมาจากรังไหม แต่ยังติดอยู่ผมจึงช่วยเพียงเล็กน้อย เท่านั้นครับ

พ่อจึงอธิบายต่อว่า การใช้ความเพียรพยายามออกมาจากรังไหมดิบของผีเสื้อนั้น เปรียบเหมือนวิธีการที่จะให้พลังจากร่างไปสู่ปีกของผีเสื้อ เมื่อตัวผีเสื้อมีความพร้อมเท่านั้น ที่มันจึงจะออกมาจากรังไหมดิบ แล้วจะบินได้ตามธรรมชาติ

เด็กชายรุ่งตอบว่า เพราะผมไม่รู้จึงทำเช่นนั้น

พ่อจึงสอนลูกว่า การที่ลูกจะทำสิ่งใด จะต้องมีความรู้ความเข้าใจก่อน การต่อสู้กับอุปสรรคบางครั้ง เป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิต เป็นการสร้างพลังความเข้มแข็งให้มีขึ้น หากให้ชีวิตผ่านไปได้โดยไม่มีการต่อสู้กับอุปสรรค มันจะทำให้เราอ่อนแออย่างมาก เราจะไม่มีความแข็งแรงเท่าที่ควร และไม่สามารถก้าวต่อไปได้

เด็กชายรุ่งจึงหันไปที่พ่อพร้อมกับยกมือไหว้ และพูดว่า ขอบคุณพ่อที่อธิบายให้เข้าใจ ครับ

และหันไปที่ผีเสื้ออ่อนตัวนั้นพร้อมกับพูดว่า ผีเสื้อตัวน้อย ขอบคุณที่ทำให้ได้เกิดการเรียนรู้ และขอโทษด้วยในกับสิ่งที่ได้ทำไป

พ่อจึงพูดว่า วันนี้ลูกได้เรียนรู้จักตนเอง…ลูกมีจิตใจที่ดีงาม สามารถสร้างความคิด อารมณ์ ความรู้สึกที่ดี ได้ใช้สติปัญญาในการสร้างความเข้าใจ และ ตัดสิน จะเป็นรอยประทับหรืออุปนิสัยที่ดีงามต่อไป เมื่อลูกเจริญเติบโตขึ้น จะเป็นคนดีของสังคม ขอให้ลูกรักษาสิ่งที่ดีๆ นี้ไว้กับตัวลูก และทำให้ผู้อื่นเหมือนลูกด้วยนะ

เด็กชายรุ่งตอบว่า ครับพ่อ

แล้วพ่อกับลูกจึงเดินทางกลับบ้านพร้อมกันด้วยความเข้าใจ และมีความสุข


Om Shanti
รวมรวมโดย ผศ.เสาวนีย์ ก่อวุฒิกุลรังษี