ดวงวิญญาณมนุษย์
ดวงวิญญาณสูงสุด


ดวงวิญญาณมนุษย์

ดวงวิญญาณสูงสุด
ใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ จึงมีร่างกาย เวียนว่ายอยู่ในวงจร ของการเกิดการตาย ไม่เคยเป็นมนุษย์ จึงไม่มีร่างกายของตนเอง และไม่ติดอยู่ในวงจรของการเกิดการตาย
เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพตรงกันข้าม: พอใจ-เจ็บปวด เจริญเติบโต-แก่ชรา สุข-ทุกข์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง อยู่เหนือสภาพตรงกันข้าม ทั้งสอง
มีความสามารถในการจำและลืม เมื่อลืม ธรรมชาติที่แท้จริงของตนเอง ก็เริ่มแสวงหา ความสงบสุข คงความเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้ ผู้เดียวที่ทุกคนเรียกร้องแสวงหา ผู้ให้พรแห่งความสงบ ความสุข
สูญเสียพลังของตนเองและอยู่อย่างอ่อนแอ เป็นแหล่งกำเนิดของพลังทางจิตทั้งหมด ที่มั่นคงตลอดไป
ดวงวิญญาณมนุษย์เป็นพี่น้องกัน ดวงวิญญาณสูงสุด คือ พระเจ้า ผู้เป็นพ่อ-แม่
ตกอยู่ในบ่วงของกิเลส: ตัณหาราคะ ความโกรธ ความโลภ ความผูกพันยึดมั่น และความหยิ่งทะนง ไม่มีบ่วงพันธะใดๆ
แสวงหาความสงบสุขด้วยการฝึกจิต สวดมนต์ กราบไหว้ ทำพิธีกรรม ทรมานตน และค้นหาความจริง ด้วยการทดลองต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์ มีความสมบูรณ์ในตนเอง จึงไม่ต้องแสวงหาหรือ ทำตามบทบัญญัติกฎเกณฑ์ใดๆ
เป็นผู้ที่กราบไหว้บูชาในเวลาที่ขาดพลัง เป็นผู้ที่ได้รับการกราบไหว้บูชาตลอดเวลา
ต้องการสิ่งสนองตอบทางร่างกาย รวมทั้ง เกียรติยศชื่อเสียง ไม่มีตัวตน ไม่มีความปรารถนาทางร่างกาย
ไม่มีความบริสุทธิ์ มีความบริสุทธิ์ เป็นผู้ชำระล้างบาป
เปรียบเหมือนคนตาบอด เพราะสติปัญญาแคบ เป็นผู้ให้ดวงตาที่สาม ทำให้สติปัญญาเปิดกว้าง
ติดอยู่ในปัจจุบัน มีอดีตที่บิดเบือนเลือนลาง และอนาคตที่ไม่กระจ่าง เป็นผู้ล่วงรู้รูปกาลเวลาทั้งสาม อดีต ปัจจุบัน อนาคต
เป็นผู้รับและลืมผู้ให้ เป็นผู้ให้และให้อภัย
มีร่างกายห่อหุ้มที่สัมผัสได้ ไม่มีร่างกาย แต่มีรูปเป็นแสงที่ไม่มีตัวตน
เปรียบเสมือนดวงดาวทางจิต เปรียบเหมือนพระอาทิตย์แห่งความรู้
เป็นพ่อแม่ทางร่างกาย เป็นพ่อแม่ดวงวิญญาณทั้งหมด ไม่มีพ่อแม่ของ ตนเอง
เป็นผู้ที่ติดบ่วง ไม่สามารถปลดปล่อยมนุษย์ ด้วยกันให้หลุดพ้นได้ อยู่เหนือกฎแห่งกรรม นำการหลุดพ้นมาให้ และยกระดับจิตใจของมนุษย์
Om Shanti
จากส่วนหนึ่งของหนังสือ "ฉันคือใคร?" ของ มูลนิธิ บราห์มา กุมารี ราชาโยคะ