ท่านคือใคร?

นี่คือบทสนทนาเพื่อแสดงถึงความเข้าใจที่ผิดของเราเกี่ยวกับ ฉัน และของฉัน โดยในบทสนทนากล่าวถึงลักษมี ซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่นทำหน้าที่ให้ความรู้กับผู้ที่เข้ามารับบทเรียนที่ศูนย์ราชาโยคะแห่งหนึ่ง ส่วนทรงชัยนั้นเป็น Professor ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเป็นผู้เข้ามารับบทเรียน


ลักษมี: ท่านกรุณาตอบคำถามหน่อยว่าท่านคือใคร? หนูหวังว่าท่านจะไม่ถือสากับคำถามนี้
ทรงชัย: ผมคือ Professor ทำงานที่มหาวิทยาลัย... ชื่อผมคือ ทรงชัย
ลักษมี: แต่ท่าน... สิ่งที่ท่านกล่าวมามันเกี่ยวกับงานของท่าน แล้วท่านก็ให้ชื่อของร่างท่าน แต่หนูถามว่าท่านคือใคร?
ทรงชัย: ผมขอโทษ บางทีผมอาจจะไม่เข้าใจคำถามของหนู ถึงแม้ตอนนี้มันก็ยังไม่ค่อยจะกระจ่าง ว่าอะไรคือสิ่งที่หนูต้องการจะรู้
ลักษมี: ท่าน สำนึกของการเป็นมนุษย์ที่ท่านได้สัมผัสก่อนเป็นอาจารย์ และแม้แต่ก่อนเป็นร่างที่ใช้ชื่อนี้
ทรงชัย: ครับ ๆ อะไรที่ควรเป็นคำตอบ ผมคิดว่าผมควรจะพูดว่าผมคือคนไทย ประชากรของประเทศไทย เนื่องจากว่าเป็นสถานที่เกิด เป็นที่ที่ได้ชื่อนี้มา เป็นที่ที่ผมได้รับการศึกษา และเป็นที่ที่ผมสอนอยู่ในขณะนี้
ลักษมี: ท่านบอกหนูถึงเชื้อชาติของท่าน แต่คำถามของหนูคือ ท่านคือใคร?
ทรงชัย: โอ ใช่ บางทีหนูอาจต้องการรู้ถึงศาสนาของผม ผมคือชาวพุทธ
ลักษมี: นี่เป็นศาสนาของท่าน ที่ตัวท่านศรัทธา แต่หนูไม่ได้ถามเกี่ยวกับ "ของท่าน" แต่เกี่ยวกับท่าน ท่านพูดเกี่ยวกับงานของท่าน ชื่อของท่าน ประเทศชาติของท่าน และศาสนาของท่าน แต่คำถามของหนูนั้นเกี่ยวกับท่าน ไม่ใช่ของท่าน ถึงแม้มันเป็นความแตกต่างระหว่าง ฉันและเครื่องแต่งกายของฉัน หรือฉันกับบ้านของฉัน ดังนั้นมันจึงมีความแตกต่างกันระหว่างตัวฉันและร่างกายด้วยเช่นกัน
ทรงชัย: โอ ผมรู้แล้วว่าหนูหมายถึงอะไร แต่ผมขอโทษด้วย ผมไม่รู้แน่ชัดเกี่ยวกับตัวผมเช่นที่หนูบอก ผมบอกหนูได้เพียงเท่าที่ผมรู้ อะไรที่ผมคิดเกี่ยวกับตัวผมเท่านั้น

คำตอบข้างบน เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงว่าผู้คนส่วนใหญ่ มีความคิดเพียงผิวเผิน ว่าอะไรคือตัวฉันที่แท้จริง ยากที่จะมีผู้รู้คำตอบของคำถามนี้ พวกเขามองเพียงภายนอก ผ่านทัศนคติ รูปแบบความคิด พฤติกรรม และสภาพจิตใจหรือประสบการณ์ของเขา เขาตกภายใต้อารมณ์ของเขา ซึ่งเป็นผลมาจากบรรยากาศในครอบครัว และที่ทำงาน หรือสิ่งที่สังคมกำหนดนั่นเอง

ความแตกต่างระหว่าง ฉันและของฉัน

เราใช้ฉัน (I)สำหรับตนเอง และของฉัน (my)สำหรับสิ่งซึ่งฉันใช้หรือปฎิบัติ ตัวอย่างเช่น ทุกคนพูดว่า "นี่คือบ้านของฉัน" (This is my house) หรือ "นี่คือรถของฉัน" (This is my car) ไม่มีใครพูดว่า "ฉันคือรถ" (I am a car) หรือ "ฉันคือบ้าน" (I am a house) เช่นเดียวกันทุกคนพูดว่า "นี่คือหน้าของฉัน นี่คือหูของฉันหรือตาของฉัน" ไม่มีแม้คนเดียวพูดว่า "ฉันคือตา หู หรือ หน้า" สิ่งเหล่านี้แสดงถึงความแตกต่างกันระหว่าง

ฉัน และ ของฉัน
ดวงวิญญาณ และร่างกาย
มีสำนึก และ ไร้สำนึก



Om Shanti
แปลมาจากส่วนหนึ่งของหนังสือ "Do you Know Your Real Self"
พิมพ์โดย บราห์มา กุมารี มหาวิทยาลัยทางจิตของโลก
แปลโดย ผศ.ทรงชัย วีระทวีมาศ (webmaster)